วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หมูคั่วกะปิ เแกล้มผักสด

เมนูที่อยากแนะนำวันนี้คือ หมูคั่วกะปิ ซึ่งเป็นอาหารใต้ที่หากินกันได้ทั่วไปครับ แต่จะอร่อยหรือไม่นั้นก็แล้วความชอบของแต่ละคนครับ หมูคั่วกะปิเป็นเมนูที่สามารถทำเองได้ไม่ยากครับ วันนี้จึงอยากจะแนะนำวิธีการทำ หมูคั่วกะปิ ไว้กินกันครับ ขอเริ่มจากเครื่องปรุงของหมูคั่วกะปิก่อนครับ

  1. หมูจะสามชั้นสำหรับคนชอบติดมัน หรือจะหมูเนื้อแดง สันคอหมูอันนี้แล้วแต่ชอบ
  2. กะปิอย่างดีหากสามารถหาได้ครับ เพราะจะเพิ่มความหอมให้กับหมูคั่วกะปิ
  3. กระชาย
  4. พริกไทยสด
  5. พริกขี้หนูสวน เพื่อเพิ่มความหอม
  6. กระเทียม
  7. พริกชี้ฟ้าแดง


วิธีการ

  1. หั่นหมูขนาดพอดีคำเพื่อให้หมูสุกเร็ว
  2. ทำเครื่องแกงโดย นำกระชาย พริกไทยสด กระเทียม และ พริกขี้หนูสวนโคลกเข้าด้วยกัน
  3. ตั้งกระทะเทน้ำมันพื้ช และนำเครื่องแกงลงไปผัดจนได้กลิ่นหอม
  4. นำกะปิอย่างดีลงไปผัดร่วมด้วยจนได้กิล่นหอม
  5. นำหมูที่หั่นไว้แล้วลงไปผัด ทิ้งไว้จนหมูสุก
  6. นำพริกชี้ฟ้าแดงที่ซอยไว้แล้วลงไปผัด ก็เป็นอันเสร็จ


จุดเด่นของหมูคั่วกะปิคือ ความเผ็ดของพริกผสานกับความหอมของกระชายและกะปิ บวกความเค็มและหวานจากกะปิที่เราใช้ครับ รสชาติแบบนี้ ต้องแกล้มด้วยผักสด เช่น ถั่วฝักยาว ผักชี แตงกวา ที่แช่เย็นไว้แล้วร่วมกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ เท่านี้ก็อร่อยแล้วกับ หมูคั่วกะปิ






วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ลอยกระทงกรุงเทพ สวนปลาธรรมชาติ วัดลานบุญ ลาดกระบัง

เมื่อเทศกาลลอยกระทงเวียนมาบรรจบในทุกๆปี คนกรุงเทพส่วนใหญ่ก็จะพากันไปลอยกระทงกันในสถานที่ลอยกระทงที่จัดกันอย่างใหญ่โต เช่น สะพานพระราม ๘ ม เกษตรศาสตร์ และท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา แน่นอนว่าสถานที่จัดงานลอยกระทงในกรุงเทพเหล่านี้จะมีประชาชนไปร่วมงานอย่างหนาแน่น ซึ่งผู้ร่วมงานต้องระมัดระวังตัวจากมิชฉาชีพ ที่อาศัยจังหวะนี้ในการหมายปองต่อทรัพย์สินของท่านทั้งหลาย การเลือกไปลอยกระทงที่วัดใกล้บ้านของคนกรุงเทพก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ เลือกสถานที่ลอยกระทงที่อยู่ชานเมืองกรุงที่อยู่ใกล้ๆบ้าน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในส่วนของกรุงเทพฝั่งตะวันออกผมอยากแนะนำมาลอยกระทงที่ สวนปลาธรรมชาติ วัดลานบุญ ซึ่งตั้งอยู่ถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง ซึ่งสวนปลาธรรมชาตินี้จะอาศัยคลองประเวศบุรีรมย์ เป็นที่อยู่อาศัย ดังนั้นหากมาลอยกระทงที่วัดลานบุญท่านผู้อ่านก็จะได้ให้อาหารปลาร่วมด้วย ในส่วนของกระทงนั้นทางวัดก็มีการจัดจำหน่ายทั้งกระทงแบบขนมปังหรือจะเป็นกระทงจากต้นกล้วยครับ ภายในงานของวัดลานบุญ จะมีซุ้มอาหารจำหน่ายบริการให้ท่านผู้อ่าน หรือหลังจากลอยกระทงก็จะดูหมอไพ่ยิบซี ทาโร่ ลายมือ ก็เป็นอีกกิจกรรมที่พบในวัดลานบุญครับ  ท้ายที่สุดอย่าลืมไปกราบหลวงพ่อเพ็ชรในวิหารหลวงพ่อเพ็ชรก่อนกลับนะครับ และหากมาเป็นครอบครัวหลังลอยกระทงเสร็จแล้วต้องการจะรับประทานอาหารอร่อยๆ ผมแนะนำร้านอาหารเวียดนามซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดลานบุญนักให้ท่านผู้อ่านไปสัมผัสอาหารสุขภาพกันครับ สุขสันต์วันลอยกระทงครับ

วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พาไหว้หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน (แหล่งท่องเที่ยวกลุ่มเบญจบูรพา)

หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวกลุ่มเบญจบูรพา ที่จะแนะนำในบทความนี้คือ วัดหลวงพ่อโตหรือวัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ ถนน เทพารักษ์ จ สมุทรปราการ การเดินทางไปยังวัดหลวงพ่อโต นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้โดยอาศัยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 9 วงแหวนตะวันออกส่วนขยายพระราม 2 หากเริ่มต้นที่ด่านบางนา ท่านผู้อ่านสามารถลงที่ทางออกเทพารักษ์ ซึ่งจะลงไปสู่ ถนน เทพารักษ์ (ทางหลวงหมายเลข 3269) หรือท่านที่ใช้ถนนบางนา-ตราด ให้เลี้ยวเข้าสู่ถนนศรีนครินทร์หรือถนนกิ่งแก้ว  มุ่งหน้าไปยัง จ สมุทรปราการ จนพบทางแยกถนน เทพารักษ์ ให้ท่านผู้อ่านเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทพารักษ์มุ่งหน้าไปยัง อ บางพลี เมื่อท่านผู้อ่านขับผ่าน BIG C ไปประมาณ 500 เมตร ท่านจะพบทางเข้าวัดหลวงพ่อโตซึ่งอยู่ด้านซ้ายมือ ข้อแนะนำสำหรับการเดินทางมาไหว้หลวงพ่อโตคือ ขอให้ท่านวางแผนการเดินทางมาแต่เช้า เพราะไม่เช่นนั้นท่านจะพบกับการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมากเนื่องจากทางเข้าออกวัดค่อนข้างแคบและที่จอดรถภายในวัดมีจำกัด ภายในวัดหลวงพ่อโตประกอบไปด้วย วิหารหลวงพ่อโตซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตองค์จริง โดยผู้จะเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อโตจะต้องถอดรองเท้าไว้ด้านนอก ขณะที่ดอกไม้ธูปเทียนจะมีจำหน่ายบริเวณด้านหน้าของวิหาร จากการสังเกตของผู้เขียนพบว่าในปัจจุบันมีการนำไข่ต้มไปแก้บนหลวงพ่อโตซึ่งจะคล้ายกับการแก้บนหลวงพ่อโสธร จ ฉะเชิงเทรา ซึ่งข้อเท็จจริงข้อนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร หลังจากกราบไหว้สักการะหลวงพ่อโตเรียบร้อยแล้ว หลังจากออกมาจากวิหารหลวงพ่อโต จะพบว่าในบริเวณวัดหลวงพ่อโตยังมีตลาดนัดที่มีพ่อค้าแม่ค้านำของดี อ บางพลี มาจำหน่ายมากมาย ที่ขึ้นชื่อและอยากนำคือ ปลาสลิด บางบ่อ ขายตามน้ำหนักและขนาดของปลาและมีบริการทอดปลาสลิดให้ผู้ซื้อด้วย นอกจากนี้ยังมีแกงส้มมะรุม ซึ่งสามารถซื้อแยกน้ำแยกเนื้อไปปรุงรับประทานเองที่บ้านได้ กินแกล้มกับปลาสลิดทอด เข้ากันมาก นอกจากนี้ด้านหลังวัดหลวงพ่อโตจะเป็นที่ตั้งของ  ตลาดโบราณบางพลี (ตั้งแต่ปี 2400) ให้ท่านผู้อ่านได้เลือกซื้อของฝากทั้งขนมไทยโบราณ ของที่ระลึก เรียกได้ว่ามีให้เลือกได้ครบถ้วน สุดท้ายที่อยากแนะนำคือน้ำพริกปลาร้าสับของคุณดอน จมูกบาน ซึ่งมีร้านจำหน่ายภายในวัดและจำหน่ายโดยคุณดอน จมูกบาน เองด้วย ในช่วงเทศกาลออกพรรษาวัดหลวงพ่อโตหรือวัดบางพลีใหญ่ในมีงานประเพณีประจำปีนั่นคือ ประเพณีรับบัว ซึ่งเป็นประเพณีของชาวไทยเชื้อสายมอญที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน สรุปไฮไลต์ของวัดหลวงพ่อโตคือ กราบสักการะหลวงพ่อโตเพื่อความเป็นสิริมงคล เที่ยวตลาดโบราณบางพลีซื้อของกินและของฝาก
แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
ไหว้หลวงพ่อเพชร และให้อาหารปลาธรรมชาติ วัดลานบุญ

ร้านอาหารที่น่าสนใจ
ยูซุป โภชนา (ราชาข้าวหมก)



หน้าวิหารหลวงพ่อโตคนก็เยอะแล้ว

เข้าใกล้หลวงพ่อได้เท่านี้ครับ 

ไข่ต้มแก้บน เหมือนที่หลวงพ่อโสธร มีที่มาอย่างไรไม่ทราบได้ครับ


ทางเข้าตลาดโบราณบางพลี


เจดีย์ภายในวัดหลวงพ่อโต เพิ่งสร้างเสร็จ






วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

ท่องเที่ยว อ สวนผึ้ง ราชบุรี

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดสัปดาห์นี้ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยว อ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ผมเคยเดินทางไป อ สวนผึ้งครั้งแรกเมื่อซัก 11 ปีที่แล้ว ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก ความเงียบสงบและผู้คนยังไม่มากเท่าปัจจุบัน สำหรับวันหยุดช่วงเทศกาลเข้าพรรษาในปีนี้ ผมได้มีโอกาสกลับไปเยือน  สวนผึ้งอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ได้ใช้บริการจองที่พักด้วย Agoda ในวันก่อนเดินทางหนึ่งคืน ซึ่ง Agoda ได้ให้ความสะดวกในการเลือกโรงแรมหรือรีสอร์ทในสวนผึ้งได้เป็นอย่างมาก ทั้งด้านการชำระเงินและการจองที่พัก ท้ายที่สุดได้เลือกพักที่ ไร่อุษาวดี ซึ่งเป็นที่พักในสวนผึ้งที่ตั้งเป็นแห่งแรกๆ ด้านหลังติดกับเทือกเขาตะนาวศรี ฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศพม่า ในการเดินทางไปท่องเที่ยวภาคตะวันตกเราจะเลือกใช้ทางหลวงหมายเลข 9 ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 35 (พระรามสอง) เมื่อสิ้นสุดทางหลวงหมายเลข 35 ท่านจะพบทางหลวงหมายเลข 4 ให้เลือกข้ามสะพานไป จ ราชบุรี  และเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3208 เพื่อมุ่งสู่ อ สวนผึ้ง ระยะทางประมาณ 70 กม จากทางแยก ใช้เวลาจาก กทม ถึง สวนผึ้ง ประมาณ 2 ชั่วโมง สวนผึ้งในปัจจุบันแตกต่างจากสวนผึ้งในอดีตค่อนข้างมาก มีโรงแรมที่พักและรีสอร์ทเกิดขึ้นมากมาย โดยส่วนตัวคิดว่าการไปพักผ่อนที่สวนผึ้งน่าใช้เวลา 2 วัน เพื่อให้ครบกับสถานที่ท่องเที่ยวและรีสอร์ทต่างๆในสวนผึ้ง เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ เย็นสดชื่น ท่ามกลางขุนเขา สถานที่ท่องเที่ยวในสวนผึ้งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เช่น เขากระโจม น้ำตก 9 ชั้น น้ำตกผาแดง
2. สถานที่ท่องเที่ยวเอกชน ได้แก่ รีสอร์ทต่างๆ จะมีกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้ร่วม เช่น ไร่กุหลาบอุษาวดี น้ำตกผาเตย บ้านอ้อมกอดแห่งขุนเขา ให้อาหารแกะหัดขี่ม้าที่ Royal Good View Resort & Farm , Swiss Valley Hip Resort

ในการท่องเที่ยวสวนผึ้งทริปนี้ของผม ได้มีโอกาสไปรับประทานอาหารที่ ร้านอาหารม่อนไข่ ซึ่งมี 2 สาขา ซึ่งมีเมนูอาหารให้เลือกมากมาย แต่ไม่มีอาหารป่านะครับ
สุดท้ายคอกาแฟ ท่านสามารถพบกับร้านกาแฟในระหว่างทางที่เที่ยวในสวนผึ้งได้ตลอด 2 ข้างทาง ร้านไหนอร่อยลองไปชิมดูได้ครับ ผมชิมได้ไม่หมด ฝากไว้ท้ายที่สุดขากลับ ทางหลวงหมายเลข 35 หากมีโอกาสให้แวะดอนหอยหลอดรับประทานอาหารทะเลก่อนเข้า กทม

 
ผมใช้ Google Map ในการสำรวจเส้นทางไปสวนผึ้ง
 
 
การจองห้องพักด้วย AGODA สะดวกและประหยัดด้วย
 
 
ไร่อุษาวดี สวนผึ้ง จ ราชบุรี ด้านหลังเป็นเทือกเขาตะนาวศรีและประเทศพม่า ถนนด้านขวาจะเป้นทางเข้าหมู่บ้านสุดท้าย
 
 
 
 
ต้มยำปลากดคัง
 
 
น้ำอ้อยคั้นสด ของดีครัวม่อนไข่ สวนผึ้ง
 

 
อาหารจากครัวม่อนไข่ ขึ้นชื่อยำผักกูด
 
 
เทือกเขาตะนาวศรี
 
 
 
 
ให้อาหารแกะ และขี่ม้าในรีสอร์ท
 
 
 
 
 




วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ร้านอาหารริมคลองน้ำอ้อม เมืองปทุมธานี (Thai food restaurants)

สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดปทุมธานีที่ผมได้นำเสนอไปแล้วคือ หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดโบสถ์ ในบทความนี้ขอแนะนำร้านอาหารไทย เมืองปทุมธานีให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกันครับ เพื่อว่าหลังจากกราบไหว้หลวงพ่อโต หลวงพ่อเหลือ ที่วัดโบสถ์ ปทุมธานีแล้ว ท่านผู้อ่านจะได้เข้ามารับประทานกลางวันกันครับ ร้านอาหารที่กล่าวถึงคือ ร้านอาหารริมคลองน้ำอ้อม ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองน้ำอ้อมตามชื่อนั่นหล่ะครับ คลองน้ำอ้อมเป็นคลองสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางมายังร้านอาหารริมคลองน้ำอ้อม ให้ท่านใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 347 (ปทุมธานี - บางปะหัน) หากเริ่มต้นทางหลวงหมายเลข 347 ที่สามแยก มหาวิทยาลัยปทุมธานี วิ่งไปประมาณ 2 กม ให้เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3309 ประมาณ 300 เมตร ให้สังเกตุว่าได้ข้ามคลองแล้ว ร้านอาหารริมคลองน้ำอ้อมจะอยู่ด้านขวามือ บรรยากาศของร้านจะเป็นแบบสบายๆ เหมือนดัดแปลงบ้านเป็นร้าน ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ช่วงเทียงจะมีลูกค้ามากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันหยุดสำหรับครอบครัว เช่น วันแม่ วันพ่อ ทางร้านต้องเปิดพื้นที่เสริมเพิ่มเติม เมนูหลักที่อยากจะแนะนำท่านผู้อ่าน เริ่มต้นจาก บ๊ะจ่าง ที่เหนียวมัน รวมถึงขนมจีบ ส่วนเมนูหลักที่อยากจะนำเสนอคือ ห่อหมกมะพร้าวอ่อน เสิรฟ์มาทั้งลูก ความเข้ากันของเครื่องแกง ความเหนียวนุ่ม เมนูถัดมาคือ หมึกไข่นึ่งมะนาว รสชาติ เปรี้ยวเผ็ด จี๊ดจีาด ปลาคังลวกจิ้ม ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่น่าสนใจ จุดเด่นอยู่ที่ น้ำจิ้ม นอกจากนี้แล้ว ในร้านยังมีให้ท่านเลือกอีกมากมายขอแนะนำเป็ดย่างและเป็ดพะโล้ ปลาช่อนเผาเกลือ หมูมะนาว ไข่เจียวหอยนางลม ก็กลมกล่อมครับ ยังเหลือเมนูอื่นๆอีกมากที่กล่าวมาไม่หมด รอให้ท่านผู้อ่านไปลิ้มลองครับ โดยร้านเปิดทุกวัน สำหรับผมให้ 4 ดาว

ภาพแผนที่ ร้านอาหารริมคลองน้ำอ้อม

ปล ทางหลวงหมายเลข 347 เป็นทางหลวงสายที่นักเดินทางควรศึกษาไว้นะครับ  เนื่องจากเป็นทางหลวงที่ใช้เดินทางไปสู่ภาคเหนือได้ ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่รถบนถนนสายหลักหนาแน่น โดยท่านอาจจะใช้ข้ามไปยัง จ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี (ทางหลวงสาย 309 ) ได้ หรือจะเชื่อมไปยังทางหลวงหมายเลข 340 เพื่อข้ามไปยังชัยนาท และนครสวรรค์ต่อไปได้

อาหารแนะนำ


ห่อหมกปลาช่อน ผมว่า 4 คนกำลังดี


ปลาคังลวกจิ้มขึ้นชื่อ


หมึกนึ่งมะนาว เผ็ดเปรี้ยว


บ๊ะจ่าง ต้องลองชิม คำเตือนอย่าสั่งมาหลานยลูก เพราะท่านจะจุกก่อนลิ้มรสอาหารหลักครับ






วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวทั่วไทย ไหว้หลวงพ่อโตองค์ใหญ่วัดโบสถ์ ปทุมธานี

ทำบุญเทศกาลเข้าพรรษา อยากแนะนำท่านผู้อ่าน บล๊อกเที่ยวทั่วไทย ไปไหว้รูปปั้นเหมือนหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่วัดโบสถ์ปทุมธานีครับ โดยหากท่านผู้อ่านมีแผนจะไปไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ผมขอแนะนำวัดโบสถ์ให้ท่านผู้อ่านแวะกราบไหว้ก่อนไปอยุธยา โดยวัดโบสถ์ปทุมธานีตั้งอยู่พื้นที่ อำเภอสามโคก จ ปทุมธานี ท่านผู้อ่านสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 9 (ถนนวงแหวนตะวันตก) หากท่านมาจากบางปะอิน ก่อนถึงทางแยกเข้า อ สามโคก ท่านจะพบทางหลวงชนบทแยกเข้าวัดโบสถ์ด้านซ้ายมือ วัดโบสถ์เป็นวัดเก่าสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตามประวัติสร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาจากหงสาวดี ภายในวัดประกอบไปด้วย รูปปั้นเหมือนหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ความสูง 28 เมตร นอกจากนั้นแล้วยังเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อเหลือ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยา และถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวปทุมธานี ครับ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีร้านจำหน่ายอาหารและของฝากให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ นอกจากนี้ท่านที่อยากให้อาหารปลา วัดโบสถ์ก็ยังมีท่าน้ำสำหรับให้อาหารปลาริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยครับ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาทำบุญไหว้พระที่วัดนี้อย่างคึกคัก โดยเฉพาะเทศกาลเข้าพรรษา เสร็จจากการไหว้พระทำบุญที่วัดโบสถ์ แล้ว ผมอยากแนะนำร้านอาหารขึ้นชื่อของ สามโคก ปทุมธานี ให้ท่านผู้อ่านได้ไปลิ้มลอง เป็นร้านอาหารสไตล์ชาวบ้านๆ แต่ถูกปากนักแล นั่นคือ ร้านอาหารริมคลองน้ำอ้อม


ประตูทางเข้าออก เลี้ยวขวา เพื่อออกไปยังทางหลวงหมายเลข 9


รูปปั้นเหมือนหลวงพ่อโต

เที่ยวบางแสน แวะกินอาหารทะเลกันที่ร้านวังมุข

สถานที่ท่องเที่ยววันหยุด แบบเช้าไปเย็นกลับ ที่อยากจะแนะนำให้ท่านผู้อ่านวันนี้ คือ เที่ยวทะเลชายหาดบางแสน เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเคยไปมาบ้างแล้วเนื่องจากอยู่ใกล้ กรุงเทพฯมาก ท่านสามารถเดินทางด้วยทางด่วนบูรพาวิถี (บางนา ตราด) ทางหลวงหมายเลข 34 หรือจะเป็นมอเตอร์เวย์ (ทางหลวงหมายเลข 9) และใช้บริการบายพาส ทางหลวงหมายเลข 361 เพื่อเลี่ยงเมืองชลบุรีไปยัง ทะเลบางแสนได้ครับ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่อยากแนะนำ คือ ถนนเรียบชายทะเลที่ก่อสร้างใหม่ ซึ่งท่านผู้อ่านจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวอีก สองแห่งก่อนถึงชายหาดบางแสนนั่นคือ อ่างศิลา และเขาสามมุก สิ่งหนึ่งที่เรามักคุ้นเคยหรือพบที่ชายหาดบางแสนคือ การเช่าเก้าอี้นอนริมชายหาด และสั่งอาหารทะเลจากแม่ค้าแถวๆนั้นมากินกัน รวมถึง การรับลมทะเลริมชายหาดบางแสน เป็นการพักผ่อนที่ดีมากๆหลังจากนั้นอยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักร้านอาหารทะเลบรรยากาศดีแห่งหนึ่งที่เขาสามมุก ซึ่งอยู่ระหว่างหาดบางแสนและอ่างศิลา จะว่าไปแล้วเขาสามมุกมีร้านอาหารอยู่มาก(คราวต่อไปจะแนะนำ) แต่ร้าอาหารนที่จะแนะนำเป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อมากนั่นคือ ร้านอาหารวังมุข ตั้งอยู่ที่เขาสามมุก เป็นร้านอาหารติดทะเล ท่านสามารถจอดรถริมถนนรอบๆเขาสามมุกและเดินไปที่ร้านได้ครับ ตัวร้านแบ่งเป็นสองส่วนให้ลูกค้าเลือก คือ ห้องแอร์ และระเบียงริมทะเล อาหารที่อยากจะแนะนำให้ท่านผู้อ่านลองสั่งมาชิมคือ น้ำพริกไข่ปู ซึ่งมีความมันของไข่ปูและรสชาติที่จัดจ้าน ปลากระพงเผาเกลือ รสชาติหวานเนื่องจากความสดของปลากระพงรวมกับรสจัดจ้านของน้ำจิ้ม เข้ากันมาก ครับ ข้อแนะที่อยากจะบอกท่านผู้อ่านคือ อาหารที่สั่งอาจจะได้ช้าหน่อยเพราะลูกค้าเยอะมาก  แต่ก็คุ้มกับการรอคอยนะครับ มาเที่ยวทะเลบางแสนแล้วอย่าลืมแวะนะครับ และท้ายที่สุดตอนกลับแวะซื้ออาหารทะเลตากแห้ง ได้ที่อ่างศิลา ก่อนกลับกรุงเทพครับผม เที่ยวทั่วไทยไปได้ทุกที่ครับ




ปลากระพงเผาเกลือ



น้ำพริกไข่ปู กลมกล่อม


ข้าวผัดปู ไม่เละ เนื้อปูเยอะพอสมควร


ต้มยำไข่ปลา เผ็ดร้อน



ทอดมันกุ้ง แป้งน้อย เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดีครับ








วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อาหารเวียดนามที่ครัวเมืองเว้


อาหารเวียดนามได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากในแต่ละรายการของอาหารเวียดนามจะมีผักสดเป็นเครื่องเคียง แนะนำแหล่งเที่ยวกินวันนี้ขอนำเสนอ ร้านอาหารเวียดนาม ชื่อ ครัวเมืองเว้ ซึ่งตั้งอยู่บนถนน อ่อนนุช ลาดกระบัง การเดินทางขอเริ่มหลังจากที่ท่านมาไหว้พระและให้อาหารปลาที่วัดลานบุญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคงใกล้มื้อเที่ยงแล้ว ให้ท่านขับรถออกจากซอยวัดลานบุญและให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนอ่อนนุชลาดกระบัง เมื่อข้ามสะพานข้ามคลองไปแล้ว (ไม่เกิน 300 เมตร) ท่านจะพบร้านครัวเมืองเว้ ซึ่งจำหน่ายทั้งอาหารเวียดนามและอาหารไทย ที่มาของชื่อร้านมาจากชื่อเมืองเมืองหนึ่งในประเทศเวียดนาม โดยคุณพ่อของเจ้าของร้านเป็นคนเมืองเว้ และได้เดินทางมาอยู่ในประเทศไทยและได้เปิดขายอาหารเวียดนาม ในปัจจุบันครัวเมืองเว้ได้บริหารงานโดยคนรุ่นลูกแล้ว ทำให้ยังคงรักษารสชาติของอาหารเวียดนามดังเดิมไว้ได้ เมื่อท่านเข้ามาในร้านและสั่งอาหารเรียบร้อย พนักงานจะนำถาดผักสดมาเสิร์ฟก่อน โดยจะประกอบไปด้วยผักสดหลายชนิด เช่น ผักสลัด ผักชีฝรั่ง โหระพา ผักแพ้ว เป็นต้น นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถขอผักสดได้เพิ่มเติมครับ อาหารเวียดนามที่อยากจะแนะนำของร้านนี้คือ แหนมเนือง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง (พริกขี้หนูเม็ดเล็กๆ มะเขื่อหั่น กระเทียมหั่น และ มะม่วงหั่น) โดยเมนูนี้มีจุดเด่นที่น้ำจิ้ม ซึ่งรสชาติเข้มข้นถึงรสชาติจริงๆ เมนูต่อมาคือ ปอเปี๊ยะญวนราดหน้าด้วยกระเทียมเจียวและหมูยอหั่นชิ้นเล็ก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแครอตรสหวาน เหมาะสำหรับเด็กๆครับ  นอกจากนี้ยังมีอาหารเวียดนามอื่นๆให้เลือกเช่น ข้าวผัดเวียดนาม เผ่อ เป็นต้น ส่วนอาหารไทยของที่นี้จะขอแนะนำ ส้มตำครับ จะส้มตำไทย ส้มตำปู ตำซั่ว ก็มีรสชาติที่กลมกล่อมเข้ากันได้ดี โดยเน้นการทำที่สะอาดและกลิ่นไม่แรงมากนัก นอกจากนี้ยังมีปีกไก่ยกครก ซึ่งก็คือปีกไก่ทอดเสิร์ฟมาในครกนั่นเอง รสชาติกลมกล่อมเค็มนำเล็กน้อย หลังอิ่มจากของคาวแล้วที่นี่ยังมีเฉาก๊วยซากังราวไว้เป็นของหลวานสำหรับล้างปากด้วยครับ ก็ขอฝาก ร้านอาหารเวียดนามย่านลาดกระบังไว้ด้วยครับ สำหรับผู้มาไหว้พระและให้อาหารปลาที่วัดลาดกระบัง หรือวัดกระทุ่มเสือปลา ในวันหยุดพักผ่อนสบายๆ

 
ปอเปี๊ยะญวน
 
 
แหนมเนือง
 
 
ตำซั่ว
 
 
ปีกไก่ยกครก
 
 
 
 

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เที่ยววัดถ้ำเสือแวะกินอาหารไทยที่แพริมเขื่อน (Thai food)

บทความนี้ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจาก กรุงเทพ ฯมากนัก นักท่องเทียวสามารถใช้เวลาในวันหยุดสั้นๆไปได้ครับ คราวนี้เราจะนำท่านไปเที่ยวยังภาคตะวันตกของประเทศนั้นคือจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้งแบบธรรมชาติหรือวัดวาอารามต่างๆ โดยในบทความนี้จะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของกาญจนบุรีที่หนึ่ง นั่นคือ วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรีครับ การเดินทางห่างจาก กรุงเทพฯ ไม่เกิน 200 กม ครับ ผมขอเริ่มจาก ถนนกาญจนาภิเษก(ทางหลวงหมายเลข 9) ท่านสามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 4 เพชรเกษม แถวๆบางแค มุ่งสู่จังหวัดนครปฐม หรือ จะใช้ถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) มุ่งสู่นครชัยศรี และไปบรรจบ ทางหลวงหมายเลข 4 ที่นครปฐมได้เช่นกัน ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ต่อไปจนพบทางแยกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 323 มุ่งสู่ อำเภอบ้านโป่ง จ ราชบุรี และ จ กาญจนบุรี เราจะใช้ทางหมายเลข 323 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ โดยสังเกตป้าย จ กาญจนบุรีเป็นหลักครับ โดยจะผ่าน อำเภอ บ้านโป่ง อำเภอ ท่ามะกา สุดท้ายจะถึงแยก อำเภอท่าม่วง ให้ท่านเลี้ยวซ้ายเข้าตัว อำเภอท่าม่วง ระยะทางประมาณ 500 เมตร สังเกตทางรถไฟ และป้ายทางเข้าเขื่อนแม่กลอง ให้ขอสัญญาณเลี้ยวขวา ซึ่งเป็นถนนริมเขื่อนครับ มุ่งหน้าเข้าไป ขอให้สังเกตป้ายบอกร้านแพริมเขื่อนไว้ วิ่งตามเส้นทางดังกล่าว จนพบกับทางแยกเข้าวัดถ้ำเสือ (แพริมเขื่อนตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร) ให้ท่านเลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 500 เมตร จะพบกับวัดถ้ำเสือ ดังแสดงในภาพครับ วัดถ้ำเสือตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ วันที่ผู้เขียนไปมีคณะทัวร์มาเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ประมาณ 3 คณะครับ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนวัดถ้ำเสือโดยเดินขึ้นบันได หรือจะใช้บริการกระเช้าลากก็ได้ครับ แต่ขอบอกก่อนว่าบันไดชันมากๆ ดูตามภาพได้เลยครับ

 
ทางเข้าวัดถ้ำเสือ
 
 
บันไดทางขึ้นวัดถ้ำเสือ
 
 
หลวงพ่อชินประทานพร
 
 
มองจากบนวัดเห็นทุ่งนาเขียวขจี
 
 
ยอดวิหารสูงเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเดินขึ้นไปประมาณ 170 ขั้น
ส่วนด้านล่างเป็นกระเช้าบริการนักท่องเที่ยว
 
หลังจากเดินลงมาจากวัดถ้ำเสือแล้ว ผมขอแนะนำร้านอาหารไทย (Thai Food) ที่อยู่ใกล้ๆกับวัดถ้ำเสือ จากที่เล่าไว้ข้างบน ชื่อร้านแพริมเขื่อน ซึ่งตั้งอยู่ริมเขื่อนแม่กลอง โดยก่อนถึงร้านอาหารท่านจะพบกับบ้านพักที่มีบริการให้นักท่องเที่ยวได้เช่าพักผ่อนตั้งอยู่เรียงรายตามริมเขื่อน ท่านที่สนใจจะหาที่พักค้างคืนสามารถติดต่อได้ครับ ร้านอาหารแพริมเขื่อน มีเมนูอาหารไทย (Thai food) ที่น่าสนใจหลายเมนู แต่ที่จะผมจะนำเสนอเป็นอาหารไทยขึ้นชื่อของร้าน นั่นคือ ฉู่ฉี่ปลาคัง ซึ่งรสชาติจะแตกต่างจากครัวปลาท่าน้ำอ้อยตรงที่รสเผ็ดจัด ไม่เน้นกระทิ และผัดแบบแห้งๆ 
 

 
ฉู่ฉี่ปลาคัง
 
เมนูต่อมาขอแนะนำ ทอดมันปลากราย เหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม
 
 
ทอดมันปลากราย
 
สุดท้ายขอแนะนำยำคะน้ากรอบครับ รสชาติจัดจ้านมาก
 
 
ยำคะน้ากรอบ
 
ที่สำคัญราคาอาหารของร้านอาหารแพริมเขื่อนไม่แพงครับ ลองมาชิมดูได้ครับ ขากลับ ตามทางหลวงหมายเลข 323 ท่านจะพบกับร้านศรีฟ้ากาญจน์ ซึ่งเป็นร้านของฝากขึ้นชื่อของ กาญจนบุรี มี 2 ร้านตั้งอยู่ 2 ข้างทางทั้งขาไปและขากลับครับ ลองแวะเลือกของฝากดูครับ เป็นอันจบทริปท่องสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี
 

 
 
 
 
 
 


วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ท่องเที่ยววันหยุด ดอนหอยหลอด (donhoilod)

ช่วงวันหยุดยาวหลังสงกรานต์กับอากาศร้อนที่สูงกว่า ขอแนะนำไปนั่งรับลมริมทะเล หากจะเปลี่ยนจากหาดบางแสนซึ่งมากไปด้วยนักท่องเที่ยว ผมขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอ่าวไทยแถวๆ ถนนพระราม 2 (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35) นั่นคือ ดอนหอยหลอด ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ดอนหอยหลอดตั้งอยู่ในเขต จังหวัดสมุทรสงคราม และก็อยู่ไม่ห่างจากตลาดน้ำอัมพวาและหลวงพ่อบ้านแหลมนัก เรียกได้ว่า สามารถมาพักผ่อนได้ทั้ง 3 รูปแบบ ดอนหอยหลอด เป็นสถานที่ซึ่งมีลักษณะเด่นหาพบได้ยาก เกิดจากการทับถมของตะกอนจากแม่น้ำแม่กลองและทะเลอ่าวไทย และเป็นแหล่งที่พบหอยหลอดจำนวนมาก การเดินทางจะใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 35ขอเริ่มต้นที่ถนนกาญจนาภิเษก และลงด่านเก็บเงิน ถนนพระราม 2 (หมายเลข 35) วิ่งตามเส้นไปจนเข้าสู่เขตจังหวัดสมุทรสงคราม จะสังเกตเห็นป้ายบอกทาง ดอนหอยหลอด อยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเลยสะพานข้ามไปตลาดน้ำอัมพวาและตัวจังหวัดสมุทรสงคราม (ทางหลวงหมายเลข 325)  ให้สังเกตด้านขวาจะพบ รพ แม่กลอง 2 ให้ท่านเบี่ยงซ้ายจะพบ วงเวียนเล็กๆ มีทางหลวงชนบท หมายเลข 2009 ให้ท่านวิ่งตามทางหลวงชนบทเส้นนี้ไป จนสุดทางจะพบกับดอนหอยหลอด สิ่งแรกให้ท่านเข้าไปกราบสักการะเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ก่อนครับ จากนั้นท่านสามารถนำเสื่อไปปูบริเวณทางเท้าซึ่งติดกับทะเลอ่าวไทย เพื่อนั่งรับลมและรับประทานอาหารทะเลก็ไม่ผิดกติกาครับ ในบริเวณนั้นมีแม่ค้าจำหน่ายอาหารทะเลสดๆและอาหารทะเลแห้ง หลากหลาย เช่น สารพัดเมนูหอยหลอด หอยเชลล์ ปู เนื้อ ปูไข่ ปลาต่างๆ ปลาอินทรีสดที่นี่ น่ากินมาก ปลาหมึกไข่ ปลาหมึกย่าง กุ้งเผา ส้มตำก็ยังมีให้ท่านได้สั่งได้หลากหลายครับ รวมถึงขนมไทยและผลไม้สดๆจากชาวส่วนก็มีให้เลือกมากมาย โดยแม่ค้าแต่ละร้านจะตั้งร้านจำหน่ายอยู่ริมทางเดินครับ สิ่งที่น่าสนใจคือ ราคาอาหารที่นี่หากเทียบกับอาหารบริเวณหาดบางแสนแล้ว สดกว่า ถูกกว่าครับ หากท่านที่ต้องการจะทำบุญไหวัพระ ที่นี่ก็มีศาลาที่จัดให้ท่านได้ทำบุญไหว้พระได้อย่างสะดวก โดยมีรูปหล่อของพระเกจิดังๆทั่วประเทศให้เราได้กราบไหว้ครับ สุดท้าย หากท่านต้องการบรรยากาศร้านอาหารติดทะเลในดอนหอยหลอด ก็มีให้เลือก มากมาย แต่ที่อยากแนะนำ คือ ร้านอาหารคุ้นลิ้น ร้านอาหารแคร่ไม้ ซึ่งเป็นร้านอาหารทะเลที่ตั้งอยู่ในดงของป่าโกงกาง ท่ามกลางฝูงลิงธรรมชาติ โดยอาหารที่แนะนำคือ หอยหลอดผัดฉ่า ด้วยหอยหลอดที่ใหม่และสด จึงทำให้รสชาติของผัดฉ่าจานนี้ทั้งเผ็ด ทั้งร้อน ทั้งหวาน รวมถึงเนื้อหอยหลอดที่เหนียวนุ่มครับ เชิญไปเทียวกันได้ที่ ดอนหอยหลอดครับ

ดอนหอยหลอด

อาหารไทย



วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา

ในช่วงปีใหม่ไทย(สงกรานต์) หรือปีใหม่สากล คนไทยนิยมเดินทางไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การไปไหว้พระ 9 วัดที่อยุธยาก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เป็นที่นิยม เนื่องจาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอดีตราชธานีของคนไทเราครับ จึงมีวัดตั้งอยู่มากมายในบริเวณรอบเกาะเมืองในอุทยานประวัติศาสตร์ทั้งวัดร้างและวัดที่มีพระจำพรรษา และที่สำคัญไม่ไกลจาก กทม ครับ ในช่วงต้นปีผมได้มีโอกาสไปไหว้พระ 9 วัด อยุธยามาจึงขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านและนักท่องเที่ยวที่ต้องการไหว้พระ 9 วัด อยุธยาได้รับทราบกันครับ เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกๆท่านครับ โดยจะเน้นการเดินทางด้วยรถส่วนบุคคล อยากให้ท่านเริ่มต้นที่
วัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยขอให้มาถึงที่วัดนี้ซัก 07.30 น ครับ เพราะคนเยอะมาก ให้เริ่มจากทางหลวงหมายเลข 32 ที่ต่างระดับบางปะอิน วิ่งผ่านนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค สังเกตด้านซ้ายมือไว้ครับ และให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเลี่ยงเมืองอยุธยา (ไปสุพรรณ) ท่านจะพบสะพานข้ามทางรถไฟให้ขับผ่านไปอีก จนกระทั่งถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวขวาบริเวณใต้สะพาน จะพบทางหลวงหมายเลข 3477 ขับไประยะทางประมาณ 5 กม ท่านจะพบวัดแรกของการไหว้พระ 9 วัด อยุธยา
วัดพนัญเชิง ให้ท่านเข้าไปกราบ หลวงพ่อโต หรือ ที่คนจีนเรียกว่า หลวงพ่อซำเปากง หรือ พระพุทธไตรรัตนายก และสามารถทำบุญห่มผ้าหลวงพ่อได้ด้วยจะดีมาก วัดนี้คนเยอะมาก หากท่านมาสายเกินไปจะเข้าไปกราบหลวงพ่อโตได้ยากและช้าครับ จุดเด่นอีกประการของวัดพนัญเชิงคือ ตั้งอยู่บนบริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกันพอดีครับ ท่านสามารถไปให้อาหารปลาและปล่อยปลาได้ที่ท่าน้ำวัดนี้ครับ หลังจากเสร็จสิ้นการกราบหลวงพ่อแล้ว เราจะเดินทางไปวัดที่ 2 ต่อครับ นั้นคือ
วัดกล้วย (ทุกเรื่องจะได้กล้วยๆครับ) โดยเมื่อออกจากวัดพนัญเชิงให้ท่านเลี้ยวขวาตามถนน อู่ทอง ให้สังเกตป้ายบอกทางเข้าวัดกล้วยด้านซ้ายมือไว้ และให้เลี้ยวซ้ายเข้าสุ่ถนนเรียบทางรถไฟไปประมาณ 1 กม ท่านจะพบวัดกล้วยอยู่ด้านซ้ายมือ เข้าไปไหว้พระประธานในวิหารเสร้จแล้ว ด้านหลังของวัดมีท่าน้ำสำหรับให้อาหารปลาในแม่น้ำป่าสักด้วยครับ เสร็จจากวัดกล้วย เราจะไปต่อวัดที่ 3 กันเลย
วัดใหญ่ชัยมงคล ให้ท่านออกจากวัดกล้วยและเลี้ยวขวาย้อนกลับทางเดิมและเลี้ยวซ้ายเพื่อข้ามทางรถไฟ ประมาณ 2 กม ท่านจะพบวัดใหญ่ชัยมงคลอยู่ด้านขวามือ ภายในวัดมีเจดีย์เก่าแก่ที่มีความสูงมากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชต่อพระมหาอุปราชแห่งหงสาวดีในคราวศึกยุทธหัตถี และมีพระนอนขนาดใหญ่ไว้กราบไหว้สักการะ หลังจากเสร็จสิ้นการไหว้พระภายในวัดใหญ่ชัยมงคลแล้ว ขอแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยบริเวณหน้าวัดใหญ่ชัยมงคล ที่เรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวหน้าวัดใหญ่ มีทั้งก๋วยเตี๋ยว หมูสะเต๊ะ ขนมจีน เป็นต้น ที่สำคัญคนเยอะมากครับ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วเราจะไปไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ต่อวัดที่ 4 นั่นคือ
วัดสุวรรณดาราราม ราชวรวิหาร ให้ท่านขับรถเลี้ยวขวาตรงไปทางทิศเหนือเพื่อเข้าตัวเมืองอยุธยาจนกระทั่งถือวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม(เจดีย์กลางถนน) ให้เลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 309 ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก เมื่อลงจากสะพานให้ชิดซ้าย และเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 200 เมตร เจอทางแยกให้เลี้ยวขวาขับตรงไปประมาณ 300 เมตร จะพบวัดสุวรรณดารารามอยู่ทางขวามือ วัดสุวรรณดาราม ผู้คนไม่ค่อยพรุกพล่าน บริเวณหน้าวัด มีร้านขายอาหาร ขึ้นชื่อคือ ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน รสชาติอร่อยมาก และยังมีอาหารอื่นๆให้เลือกรับประทานกันได้ เช่น ส้มตำผักหวาน ผัดไทผักหวาน เป็นต้น เสร็จจากวัดสุวรรณดาราราม  เราไปต่อวัดที่ 5 กันเลย โดยให้เลี้ยวขวาครับ ขับรถต่อไปตามถนนอู่ทอง เป็นถนนเลียบแม่น้ำ ด้านซ้ายมือจะพบร้านอาหารตั้งอยู่เป็นระยะ เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำ ขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบ รพ พระนครศรีอยุธยาอยู่ทางขวามือ (เป็นแหล่งทำโรตีสายไหมสดๆและอร่อยที่สุด) ขับตรงไปอีก จนพบถนนเลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (ไปอำเภอเสนา และสุพรรณ) หลังจากข้ามสะพานแล้วให้เลี้ยวซ้ายประมาณ 1 กม จะถึงวัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม  ปัจจุบันวัดไชยวัฒนารามเป็นวัดร้าง สามารถชมสิ่งก่อสร้างต่างๆ อาทิ พระพุทธรูป พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เจดีย์ราย เป็นต้น เสร็จจากการไหว้พระ 9 วัดในวัดไชยวัฒนารามแล้ว เราจะเดินทางไปต่อวัดที่ 6 และ 7 กันเลย โดยให้ขับรถกลับทางเดิม เมื่อถึงถนนหลัก(ไปอำเภอเสนา) ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเบี่ยงรถเข้าขวาเพื่อจะเลี้ยวขวาตรงสี่แยกไฟแดง เลี้ยวขวาเข้าไปวัดท่าการ้อง และวัดกษัตราธิราช
วัดท่าการ้อง เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อยิ้มในอุโบสถ และแวะใช้บริการห้องน้ำที่เย็นและสะอาดของวัดครับ บริเวณด้านหลังวัดจะมีตลาดน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ซื้อของฝากและของกินครับ ออกจากวัดท่าการ้องให้เลี้ยวซ้าย ขับย้อนกลับไปทางที่เข้ามา จะเจอทางเข้าวัดกษัตราธิราชอยู่ทางซ้ายมือ
วัดกษัตราธิราช สิ่งที่น่าสนใจของวัดคือ พระปรางค์ ซึ่งเป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ์ เสร็จจากวัดกษัตราธิราชแล้วให้ ขับรถย้อนกลับมา ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อถึงทางโค้ง ก็จะถึงวัดที่ 8 ของการเดินทางไหว้พระ 9 วัด อยุธยา นั่นคือ
วัดธรรมิกราช มีวิหารพระนอนซึ่งพุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมมากราบไหว้สักการะกัน สิ่งที่น่าสนใจคือ วิหารหลวงขนาดใหญ่ ซึ่งเคยประดิษฐานเศียรพระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ เสร็จจากการไหว้พระวัดธรรมิกราช แล้วเดินทางต่อ โดยออกจากวัดให้เลี้ยวขวา ขับตรงไปพบสามแยกให้เลี้ยวขวา (ด้านขวามือเป็นมทร สุวรรณภูมิ) ขับต่อไปจนพบสามแยกให้เลี้ยวขวา จากนั้นขับตรงไปจะพบ วิหารพระมงคลบพิตร หรือวัดมงคลบพิตร นั่นเอง เป็นอันจบทริป ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ครับ
วัดมงคลบพิตร ภายในวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ลงรักปิดทอง มีแกนเป็นอิฐ ส่วนผิวนอกบุด้วยสำริด เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 ถูกพม่าลอกทองออกไปจนหมด บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรด้านซ้าย จะพบตลาดจำหน่ายของฝากให้ท่านผู้อ่านซื้อกลับบ้านรวมถึง การดูดวงต่างๆ ขณะที่ด้านขวาเป็นวัดพระศรสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา(เหมือนวัดพระศรีรัตนศาสนดาราม ของกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบันครับ) ให้ท่านได้เดินดูความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยาเราครับ
หัวข้อเกี่ยวข้อง