วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา

ในช่วงปีใหม่ไทย(สงกรานต์) หรือปีใหม่สากล คนไทยนิยมเดินทางไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต การไปไหว้พระ 9 วัดที่อยุธยาก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เป็นที่นิยม เนื่องจาก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอดีตราชธานีของคนไทเราครับ จึงมีวัดตั้งอยู่มากมายในบริเวณรอบเกาะเมืองในอุทยานประวัติศาสตร์ทั้งวัดร้างและวัดที่มีพระจำพรรษา และที่สำคัญไม่ไกลจาก กทม ครับ ในช่วงต้นปีผมได้มีโอกาสไปไหว้พระ 9 วัด อยุธยามาจึงขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านและนักท่องเที่ยวที่ต้องการไหว้พระ 9 วัด อยุธยาได้รับทราบกันครับ เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกๆท่านครับ โดยจะเน้นการเดินทางด้วยรถส่วนบุคคล อยากให้ท่านเริ่มต้นที่
วัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยขอให้มาถึงที่วัดนี้ซัก 07.30 น ครับ เพราะคนเยอะมาก ให้เริ่มจากทางหลวงหมายเลข 32 ที่ต่างระดับบางปะอิน วิ่งผ่านนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค สังเกตด้านซ้ายมือไว้ครับ และให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเลี่ยงเมืองอยุธยา (ไปสุพรรณ) ท่านจะพบสะพานข้ามทางรถไฟให้ขับผ่านไปอีก จนกระทั่งถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวขวาบริเวณใต้สะพาน จะพบทางหลวงหมายเลข 3477 ขับไประยะทางประมาณ 5 กม ท่านจะพบวัดแรกของการไหว้พระ 9 วัด อยุธยา
วัดพนัญเชิง ให้ท่านเข้าไปกราบ หลวงพ่อโต หรือ ที่คนจีนเรียกว่า หลวงพ่อซำเปากง หรือ พระพุทธไตรรัตนายก และสามารถทำบุญห่มผ้าหลวงพ่อได้ด้วยจะดีมาก วัดนี้คนเยอะมาก หากท่านมาสายเกินไปจะเข้าไปกราบหลวงพ่อโตได้ยากและช้าครับ จุดเด่นอีกประการของวัดพนัญเชิงคือ ตั้งอยู่บนบริเวณที่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกันพอดีครับ ท่านสามารถไปให้อาหารปลาและปล่อยปลาได้ที่ท่าน้ำวัดนี้ครับ หลังจากเสร็จสิ้นการกราบหลวงพ่อแล้ว เราจะเดินทางไปวัดที่ 2 ต่อครับ นั้นคือ
วัดกล้วย (ทุกเรื่องจะได้กล้วยๆครับ) โดยเมื่อออกจากวัดพนัญเชิงให้ท่านเลี้ยวขวาตามถนน อู่ทอง ให้สังเกตป้ายบอกทางเข้าวัดกล้วยด้านซ้ายมือไว้ และให้เลี้ยวซ้ายเข้าสุ่ถนนเรียบทางรถไฟไปประมาณ 1 กม ท่านจะพบวัดกล้วยอยู่ด้านซ้ายมือ เข้าไปไหว้พระประธานในวิหารเสร้จแล้ว ด้านหลังของวัดมีท่าน้ำสำหรับให้อาหารปลาในแม่น้ำป่าสักด้วยครับ เสร็จจากวัดกล้วย เราจะไปต่อวัดที่ 3 กันเลย
วัดใหญ่ชัยมงคล ให้ท่านออกจากวัดกล้วยและเลี้ยวขวาย้อนกลับทางเดิมและเลี้ยวซ้ายเพื่อข้ามทางรถไฟ ประมาณ 2 กม ท่านจะพบวัดใหญ่ชัยมงคลอยู่ด้านขวามือ ภายในวัดมีเจดีย์เก่าแก่ที่มีความสูงมากที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชต่อพระมหาอุปราชแห่งหงสาวดีในคราวศึกยุทธหัตถี และมีพระนอนขนาดใหญ่ไว้กราบไหว้สักการะ หลังจากเสร็จสิ้นการไหว้พระภายในวัดใหญ่ชัยมงคลแล้ว ขอแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยบริเวณหน้าวัดใหญ่ชัยมงคล ที่เรียกกันว่า ก๋วยเตี๋ยวหน้าวัดใหญ่ มีทั้งก๋วยเตี๋ยว หมูสะเต๊ะ ขนมจีน เป็นต้น ที่สำคัญคนเยอะมากครับ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วเราจะไปไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ต่อวัดที่ 4 นั่นคือ
วัดสุวรรณดาราราม ราชวรวิหาร ให้ท่านขับรถเลี้ยวขวาตรงไปทางทิศเหนือเพื่อเข้าตัวเมืองอยุธยาจนกระทั่งถือวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม(เจดีย์กลางถนน) ให้เลี้ยวซ้าย ไปตามทางหลวงหมายเลข 309 ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก เมื่อลงจากสะพานให้ชิดซ้าย และเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 200 เมตร เจอทางแยกให้เลี้ยวขวาขับตรงไปประมาณ 300 เมตร จะพบวัดสุวรรณดารารามอยู่ทางขวามือ วัดสุวรรณดาราม ผู้คนไม่ค่อยพรุกพล่าน บริเวณหน้าวัด มีร้านขายอาหาร ขึ้นชื่อคือ ก๋วยเตี๋ยวผักหวาน รสชาติอร่อยมาก และยังมีอาหารอื่นๆให้เลือกรับประทานกันได้ เช่น ส้มตำผักหวาน ผัดไทผักหวาน เป็นต้น เสร็จจากวัดสุวรรณดาราราม  เราไปต่อวัดที่ 5 กันเลย โดยให้เลี้ยวขวาครับ ขับรถต่อไปตามถนนอู่ทอง เป็นถนนเลียบแม่น้ำ ด้านซ้ายมือจะพบร้านอาหารตั้งอยู่เป็นระยะ เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำ ขับตรงมาเรื่อยๆ จะพบ รพ พระนครศรีอยุธยาอยู่ทางขวามือ (เป็นแหล่งทำโรตีสายไหมสดๆและอร่อยที่สุด) ขับตรงไปอีก จนพบถนนเลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (ไปอำเภอเสนา และสุพรรณ) หลังจากข้ามสะพานแล้วให้เลี้ยวซ้ายประมาณ 1 กม จะถึงวัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม  ปัจจุบันวัดไชยวัฒนารามเป็นวัดร้าง สามารถชมสิ่งก่อสร้างต่างๆ อาทิ พระพุทธรูป พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เจดีย์ราย เป็นต้น เสร็จจากการไหว้พระ 9 วัดในวัดไชยวัฒนารามแล้ว เราจะเดินทางไปต่อวัดที่ 6 และ 7 กันเลย โดยให้ขับรถกลับทางเดิม เมื่อถึงถนนหลัก(ไปอำเภอเสนา) ให้เลี้ยวซ้ายแล้วเบี่ยงรถเข้าขวาเพื่อจะเลี้ยวขวาตรงสี่แยกไฟแดง เลี้ยวขวาเข้าไปวัดท่าการ้อง และวัดกษัตราธิราช
วัดท่าการ้อง เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อยิ้มในอุโบสถ และแวะใช้บริการห้องน้ำที่เย็นและสะอาดของวัดครับ บริเวณด้านหลังวัดจะมีตลาดน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ซื้อของฝากและของกินครับ ออกจากวัดท่าการ้องให้เลี้ยวซ้าย ขับย้อนกลับไปทางที่เข้ามา จะเจอทางเข้าวัดกษัตราธิราชอยู่ทางซ้ายมือ
วัดกษัตราธิราช สิ่งที่น่าสนใจของวัดคือ พระปรางค์ ซึ่งเป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ์ เสร็จจากวัดกษัตราธิราชแล้วให้ ขับรถย้อนกลับมา ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อถึงทางโค้ง ก็จะถึงวัดที่ 8 ของการเดินทางไหว้พระ 9 วัด อยุธยา นั่นคือ
วัดธรรมิกราช มีวิหารพระนอนซึ่งพุทธศาสนิกชนทั่วไปนิยมมากราบไหว้สักการะกัน สิ่งที่น่าสนใจคือ วิหารหลวงขนาดใหญ่ ซึ่งเคยประดิษฐานเศียรพระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ เสร็จจากการไหว้พระวัดธรรมิกราช แล้วเดินทางต่อ โดยออกจากวัดให้เลี้ยวขวา ขับตรงไปพบสามแยกให้เลี้ยวขวา (ด้านขวามือเป็นมทร สุวรรณภูมิ) ขับต่อไปจนพบสามแยกให้เลี้ยวขวา จากนั้นขับตรงไปจะพบ วิหารพระมงคลบพิตร หรือวัดมงคลบพิตร นั่นเอง เป็นอันจบทริป ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ครับ
วัดมงคลบพิตร ภายในวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อมงคลบพิตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ลงรักปิดทอง มีแกนเป็นอิฐ ส่วนผิวนอกบุด้วยสำริด เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 ถูกพม่าลอกทองออกไปจนหมด บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรด้านซ้าย จะพบตลาดจำหน่ายของฝากให้ท่านผู้อ่านซื้อกลับบ้านรวมถึง การดูดวงต่างๆ ขณะที่ด้านขวาเป็นวัดพระศรสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดหลวงในสมัยกรุงศรีอยุธยา(เหมือนวัดพระศรีรัตนศาสนดาราม ของกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบันครับ) ให้ท่านได้เดินดูความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยาเราครับ
หัวข้อเกี่ยวข้อง

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

พากินอาหารไทยในวันหยุด เมนูปลาแม่น้ำ ครัวท่าน้ำอ้อย (Thai food restaurant)

ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวภาคเหนือ โดยปกติเราจะใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (สายเอเชีย AH2) ซึ่งเริ่มต้นจากแยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ที่  ประตูน้ำพระอินทร์ จ พระนครศรีอยุธยา (บริเวณรอยต่อถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก) โดยทางหลวงหมายเลข 32 จะผ่าน จ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และชัยนาท และจะรวมกับทางหลวงหมายเลขหนึ่งอีกครั้งที่ อ มโนรมย์ จ ชัยนาท (กม ที่ 303) ก่อนจะเข้าสู่ จ นครสวรรค์ และภาคเหนือต่อไป ทางหลางหมายเลข 32 มีความยาวประมาณ 150 km หากท่านนักท่องเที่ยวเดินทางจาก กทม มุ่งหน้าภาคเหนือ ประมาณ กม ที่ 146 ด้านซ้ายมือท่านจะพบกับร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารที่เน้นเมนูปลาแม่น้ำเป็นหลัก ชื่อ ครัวท่าน้ำอ้อย โดยร้านอาหารดังเดิมอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เพื่อให้บริการกับนักท่องเที่ยวได้สะดวกจึงได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มบริเวณริมทางหลวง ในขณะเดียวกันหากท่านกลับจากท่องเที่ยวภาคเหนือ ขากลับกรุงเทพ ท่านจะพบกับ ครัวท่าน้ำอ้อยสาขา 3 บริเวณ กม ที่ 139 จุดเด่นของร้านอาหารครัวท่าน้ำอ้อย คือปลาแม่น้ำที่นำมาปรุงมีความสดใหม่ ทำให้อาหารมีรสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นคาว และกลิ่นโคน อร่อยครับ เมนูปลาแม่น้ำที่แนะนำคือ ปลากดผัดฉ่า ฉู่ฉี่ปลากด ปลาคังลวกจิ้ม แกงป่าปลากด เป็นต้น ซึ่งใช้ปลาขนาดใหญ่มันย่อง ที่สำคัญข้าวสวยของร้าน เป็นข้าวสวยคุณภาพดี นุ่ม หอม อร่อย ราคาอาหารประมาณจานละ 100 บาท ครับ หากท่านผู้อ่านนิยมรับประทานเมนูปลาแม่น้ำ ไม่ควรพลาดครับ กับ ร้านอาหารครัวท่าน้ำอ้อย และสะดวกทั้งขาขึ้นและขาล่อง เป็นการพักผ่อนในวันหยุดที่ดีทีเดียวครับ
 
 
 
ฉู่ฉี่ปลากด
 
 
 
ปลาคังลวกจิ้ม เนื้อแน่นไม่เละ ไม่คาว น้ำจิ้มรสเด็ด
 
 
ไก่อบเกลือ แม้ไม่ใช่เมนุปลาแม่น้ำแต่ก็อร่อยไม่แพ้กันครับ
 
 
แนะนำร้านอาหารไทยทั่วไทย

 
ร้านอาหารแพริมเขื่อน อ ท่าม่วง จ กาญจนบุรี